รู้จักไหมกันยัง ส่วนไหนห้ามร้อย


ไหม ร้อยไหม





ไหมที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันแบ่งหลักๆเป็น ไหมละลาย และไม่ละลาย ความนิยมในปัจจุบันเริ่มมาที่ไหมละลายเพราะไม่ตกค้างอยู่ในร่างกาย สลายไปได้เองตามธรรมชาติ นอกจากนั้น ก็ยังแบ่งได้ตามสภาพการยึดเกาะกับเนื้อเยื่อผิว คือเป็นแบบผิวเรียบ กับผิวมี texture เช่น เป็นก้างปลา กรวย หรือเกรียว ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้การยึดเกาะกับเนื้อเยื่อผิวดีขึ้น ส่งผลต่อการยกกระชับได้ดียิ่งขึ้น และผลคงอยู่ได้ยาวนานขึ้น
การร้อยไหม เป็นวิธียกกระชับหน้า ลดริ้วรอย ที่ให้ผลได้ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ผลแบบเดียวกัน การร้อยไหมเหมาะกับคนที่มีริ้วรอย และการหย่อนคล้อยไม่มาก โดยทั่วไปก็จะเป็นช่วงอายุประมาณ 35 – 55 ปี สำหรับกรณีผิวหย่อนคล้อยมากๆ ซึ่งอาจเกิดจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว วิธีการใช้ไหม อาจช่วยไม่ได้มาก

บริเวณที่ไม่ควรร้อยไหม**

บริเวณที่ไม่ควรร้อยไหมที่สำคัญที่สุดคือ หนังตาบน ซึ่งจะเกิดพังผืดหรือร้อยไปโดนอวัยวะสำคัญที่เกี่ยวกับการขยับเขยื้อนตา ทำให้การขยับเขยื้อนตาเสีย
อีกบริเวณที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือ บริเวณใกล้ๆ ต่อมน้ำลาย ข้างแก้ม ซึ่งมีประสาทเส้นเลือดมากๆ หรือที่หน้าผาก ซึ่งได้ผลน้อยหรือแทบจะไม่มีประโยชน์ เพราะหน้าผากค่อนข้างตึงและลักษณะกระดูกหน้าผากไม่สม่ำเสมอ ฉะนั้นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ต้องเลือกไหมที่เหมาะกับอวัยวะนั้นๆ ว่าต้องใช้ไหมขนาดเท่าไร ยาวแค่ไหน หลีกเลี่ยงอวัยละด้านล่างได้อย่างไร

เฉกเช่นเดียวกัน

 การร้อยไหมที่หางตา หรือใต้ตา ก็ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
หลังการร้อยไหม อาจมีมากมีน้อย หรือไม่มีเลย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคในการร้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ และปริมาณไหมที่ใช้ ในกรณีถ้าการร้อยมีเทคนิคที่ดี ใช้ไหมจำนวนมาก ก็อาจไม่มีอาการบวมช้ำเกิดขึ้นเลย แต่ถ้าเทคนิคในการร้อยไม่ดี ก็อาจทำให้มีอาการบวมช้ำเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์นั้นๆโดยตรง

#เพื่อความสะดวกคลิ้กแอดไลน์ทันที#
http://line.me/ti/p/@jk.clinic
หรือโทร 043-270234

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ร้อยไหมเรียบหรือไหมPDOได้อะไร

ดริปผิว ??

ประเภทของไหม